บริษัท ตาชำนิ จำกัด มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทฯได้จัดทำนโยบายการแจ้งเบาะแส (Whistle Blowing Policy) ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า บุคคลภายนอก สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสในกรณีที่เกิดการทุจริต การกระทำที่ผิดกฏหมาย ผิดกฏข้อบังคับ ผิดไปจากนโยบายของบริษัทฯ และผิดต่อจรรยาบรรณและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยกันปรับปรุงแก้ไขหรือดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง เหมาะสม โปร่งใส และยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสและเรื่องที่แจ้ง จะถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อป้องกันกรณีถูกละเมิดสิทธิ แนวทางการปฏิบัติ
• พนักงาน ลูกค้า หรือบุคคลภายนอก สามารถร้องเรียนและแจ้งเบาะแสการกระทำผิด สามารถยื่นเรื่องแจ้ง พร้อมแนบข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยระบุรายละเอียดจะต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้สามารถดำเนินการสอบสวน โดยจะแสดงตัวตนหรือไม่แสดงตัวตนก็ได้ และส่งไปยังประธานกรรมการการตรวจสอบได้ ช่องทางดังต่อไป นี้
1. ช่องทางไปรษณีย์ หรือ กล่องแสดงความคิดเห็นของบริษัทฯ
ผู้จัดการแผนก สำนักงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ที่อยู่ : 311 ถนน เสรี 6 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม 10250
2. บริษัทฯจะดำเนินการอย่างยุติธรรมต่อผู้แจ้งเบาะแส หากเป็นพนักงานบริษัทฯ จะไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบ สถานที่ทำงาน พักงาน ข่มขู่ คุกคาม เลิกจ้าง หรือกระทำการอื่นใดที่เป็นการไม่ยุติธรรมต่อผู้แจ้งเบาะแส และหากเป็นลูกค้าหรือบุคคลภายนอก บริษัทฯ จะพิจารณาและสอบสวนด้วยความโปร่งใส โดยปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและเสมอภาคเพื่อแจ้งให้ผู้แจ้งเบาะแสไว้วางใจและเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบที่เป็นธรรม
3. ผู้แจ้งเบาะแสที่ไม่ได้มีเจตนาสุจริตในการรายงาน และ / หรือต่อมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำที่ตั้งใจให้เกิดความเสียหาย หรือรายงานไม่ถูกต้อง หากเป็นพนักงานจะต้องได้รับโทษทางวินัยตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทฯ หากเป็นลูกค้าหรือบุคคลภายนอก ซึ่งทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายบริษัทฯ จะพิจาราณาดำเนินคดีตามกฏหมาย
4. บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวกับรายงานไว้เป็นความลับ เช่น ชื่อผู้แจ้งเบาะแส หรือเนื้อหาสาระของเรื่องที่รายงาน ยกเว้นแต่มีการขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีการร้องขอตามกฏหมาย บริษัทฯจะแจ้งให้ผู้แจ้งเบาะแสทราบก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูล
5. ผู้รับแจ้งเบาะแสจะพิจารณาเรื่องที่แจ้งว่าจำเป็นที่จะต้องสอบสวนหรือไม่ โดยคำนึงถึงหลักความยุติธรรมเที่ยงธรรม และสุจริต และหากมีการสอบสวนจะแจ้งให้ผู้แจ้งทราบ หากผู้แจ้งเบาะแสไม่แสดงตัวตนผู้รับแจ้งเบาะแสจะไม่สามารถแจ้งการสอบสวนกลับไปยังผู้แจ้งเบาะแสได้
6. ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ผู้รับแจ้งเบาะแสจะได้รายงานเบาะแสดังกล่าวต่อคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อทำการพิจารณาต่อไป โดยคณะกรรมการตรวจสอบ อาจแต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนในกรณีที่เห็นว่ามีความจำเป็น ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาต้องไม่อยู่ในคณะทำงานสอบสวนดังกล่าว ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบ ผู้รับแจ้งเบาะแสจะรายงานต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน
7. คณะทำงานจะแจ้งผลการสอบสวนให้กับผู้แจ้งเบาะแสทราบ หากเป็นการแจ้งแบบไม่แสดงตัวตนจะทำให้ไม่สามารถแจ้งผลการสอบสวนไปยังผู้แจ้งเบาะแสได้
8. ในกรณีที่ ผลการสอบสวนได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขให้ทันท่วงที และหากจำเป็น บริษัทฯ จะดำเนินการลงโทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการรายงานให้หน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้องรับทราบ
9. ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากผู้แจ้งเบาะแส และหลักฐานอื่น/สิ่งที่ตรวจพบ/ผลการสอบสวน จะเก็บไว้เป็นเอกสารความลับที่เลขานุการบริษัทฯ มาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียน หรือผู้แจ้งเบาะแสการกระทำผิด พนักงาน ลูกค้า หรือบุคคลภายนอกที่แจ้งเรื่องร้องเรียน แจ้งเบาะแส โดยความสุจริตใจ จะได้รับการ คุ้มครองที่เหมาะสมดังนี้
• บริษัทฯจะเก็บข้อมูลและตัวตนของผู้ที่ร้องเรียน ผู้แจ้งเบาะแส และผู้ที่ถูกร้องเรียน เป็นความลับ
• หากกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล บริษัทฯจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความเสียหายของผู้ร้องเรียน และผู้แจ้งเบาะแส
Back